ตอนที่ 72–นักล่าปีศาจ
ท้องฟ้ามืดครึ้มในขณะที่ดวงจันทร์เด่นสง่าและกำลังลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
ด้านในห้องสมุดที่ตั้งอยู่ในสลัมของย่านใบสีแดง
“นักผจญภัยถ้าคุณไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ช่วยเดินไปที่ศูนย์กลางของวงเวทย์หน่อย มันอาจจะมีอาการเจ็บปวดเล็กน้อยหลังจากพิธีเริ่ม แต่เดี๋ยวสักพักมันก็จะผ่านไปเอง” เฌอร์ลินชี้ไปที่ศูนย์กลางของแท่นบูชาที่ทํามาจากหินดํา
ดวงตาของเธอมีร่องรอยของความตื่นเต้นในขณะที่เธอเริ่มต้นการ ’ทดลอง’ ครั้งนี้
ฉีเฟิงไม่รู้ถึงความคิดของเฌอร์ลิน เขาจึงพยักหน้าขณะที่เดินเข้าไปในวงเวทย์
ไม่ว่ายังไงเฌอร์ลินก็เป็นตัวละครที่มีอาชีพคลาส 3 ดังนั้นมันจึงไม่น่าจะมีอะไรมาแทรกแซงได้ สําหรับความเจ็บปวดที่เขาจะต้องทน มันก็แค่เรื่องเล็กน้อย
ระหว่างการต่อสู้ในเกมผู้เล่นจะรู้สึกเจ็บเมื่อถูกมอนสเตอร์โจมตี ผู้เล่นส่วนใหญ่เลือกที่จะยอมรับการตั้งค่าแบบนี้
เป้าหมายของพวกเขาคือการเพิ่มความสมจริงดังนั้นพวกเขาจึงไม่ปรับให้การส่งผ่านความเจ็บปวดเป็น 0% พวกเขาต้องการที่จะเพิ่มทักษะของตัวเองในการต่อสู้
มีแต่ความเจ็บปวดเท่านั้นที่จะทําให้คนสามารถจดจําบทเรียนและมีแค่การเรียนรู้จากบทเรียนเท่านั้นที่จะทําให้คนสามารถปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นได้ ดังนั้นถ้าใครต้องการที่จะเติบโตในเกม การเรียนรู้เพื่อยอมรับความเจ็บปวดแบบนี้เป็นสิ่งที่จําเป็น
แต่อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากความอดทนของผู้เล่นแต่ละคน เกมได้ตั้งการส่งผ่านเจ็บปวดไว้ที่ 20 % เป็นค่าเริ่มต้น ผู้เชี่ยวชาญบางคนจะปรับการส่งผ่านเป็น 40% ซึ่งทําให้พวกเขาตื่นตัวได้มากขึ้นขณะเดียวกันตัวของฉีเฟิงเองก็ปรับไว้ที่ 50% นี่เป็นระดับความเจ็บปวดที่เขาเคยชินและมันก็เพียงพอที่เขาจะแสดงความแข็งแกร่งของตัวเองออกมาได้ดีที่สุดด้วย
หลังจากที่ยืนอยู่ในวงเวทย์แล้วฉีเฟิงก็พยักหน้าให้กับเฌอร์ลินเป็นการบอกเธอว่าสามารถเริ่มพิธีได้แล้ว
การสืบเชื้อสายจากเทพธิดาแห่งดวงจันทร์!
เฌอร์ลินเริ่มบทสวดของเธอ ร่ายคาถาเทพออกมาจากปากของเธอขณะที่นิ้วมือของเธอมีร่องรอยของข้อความศักดิ์สิทธิ์ลอยออกมากลางอากาศ
เมื่อเทียบกับเวทมนตร์ระดับ 3 ก่อนหน้านี้แล้ว ข้อความศักดิ์สิทธิ์ที่เขียนในพิธีนี้มีจํานวนมากเป็นพิเศษ แม้จะเขียนเป็น 100 บรรทัดแล้วแต่เฌอร์ลินก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลย
เหงื่อได้เริ่มไหลลงตามใบหน้าของเฌอร์ลินแสดงให้เห็นชัดเจนว่าเธอใช้พลังค่อนข้างมากและเหนื่อยล้า ในขณะเดียวกันวงเวทย์บนพื้นก็เริ่มแผ่แสงเงินแพรวพราวออกมาจากจุดศูนย์กลาง
หลังจากผ่านไป 10 นาทีริ้วของแสงจันทร์ระยิบระยับก็ยิงไปที่ร่างกายของฉีเฟิง
ในตอนนี้ปรากฏควันมืดโผล่ออกมาจากร่างกายของฉีเฟิง มันไม่เต็มใจอย่างยิ่งที่ต้องแยกออกมาจากร่างของฉีเฟิงในขณะที่มันลอยขึ้นไปในอากาศ
ในขณะเดียวกันเหงื่อก็เริ่มปรากฏขึ้นบนหน้าผากของฉีเฟิง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นขาวซีดขณะที่อดทนต่อความเจ็บปวดอันมหาศาล
ฉีเฟิงเกือบจะออกปากบ่นเฌอร์ลินไปแล้ว นี่มันไม่ใช่แค่ระดับของ ‘อาการเจ็บปวดเล็กน้อย’ แล้วแต่มันโคตรเจ็บปวดราวกับว่าแขนขาของเขากําลังถูกฉีกออกมาจากร่างกาย
ถ้าเขาไม่ได้เล่นเกมมาเป็นเวลา 10 ปีจนมีความคุ้นเคยกับความเจ็บปวดนี้ละก็เขาคงจะร้องโหยหวนเหมือนกับผีและหอนออกมาเหมือนกับหมาไปแล้วก็ได้
หลังจากแสงจันทร์สว่างอยู่หลายนาที ในที่สุดควันสีดำก็จางหายไปจากร่างกายของฉีเฟิง แต่มันไม่ได้เพียงแค่จางหายไปจากร่างกายของเขาเท่านั้นแต่มันกลับกันก่อตัวเป็นร่างเงาอันมืดมิดขึ้นมาที่มีรูปร่างคล้ายกับฉีเฟิงที่อย่างกับแกะ
“นักผจญภัยคุณจําเป็นต้องสังหารร่างแยกปีศาจตัวนี้เพื่อที่จะกําจัดคําสาป ฉันต้องดําเนินพิธีต่อดังนั้นฉันจึงไม่สามารถช่วยเหลือคุณได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคุณแล้ว” เฌอร์ลินเตือน
ด้วยท่าทีที่ค่อนข้างอ่อนเพลียฉีเฟิงได้ใช้สกิลตรวจสอบลงไปบนร่างเงาอันมืดมิดตัวนี้
[ฉีเฟิง] (ร่างแยกของปีศาจ) (ระดับชั้นสูง)
เลเวล 4
HP 2000/ 2000
“ชั้นสูง” สีหน้าของฉีเฟิงเปลี่ยนเป็นจริงจังทันที
ร่างแยกของปีศาจไม่ได้มี HP เป็นจํานวนมากและเลเวลของมันก็เท่ากับเขา ถ้าร่างแยกตัวนี้ไม่ได้มีทักษะที่ทรงพลังละก็ การจัดการกับมันก็ไม่เป็นปัญหาใหญ่อะไร
“หยดน้ำจันทร์อันชั่วช้า! มนุษย์ผู้น่ารังเกียจ! แกคิดเหรอว่าจะใช้พิธีหยดน้ำจันทร์เพื่อลดความแข็งแกร่งของฉันได้ แกจะสามารถเอาชนะฉันได้อย่างงั้นหรอ ฉันจะทําให้แกรู้เองว่าทําไมมนุษย์อันต่ำต้อยอย่างแกถึงไม่เคยเอาชนะพวกเราปีศาจที่ทรงพลังได้!” ร่างแยกของปีศาจมีท่าทีที่เกรี้ยวกราดขณะที่มันดึงเอาดาวยาวสีดำออกมาแล้วฟันไปที่ฉีเฟิง
ในชั่วพริบตาร่างแยกก็มาถึงตรงหน้าฉีเฟิง รังสีสีดำอ่อนได้ตามติดมาขณะที่มันกวัดแกว่งดาบยาว ภายในเวลาสั้นๆ รังสีดาบสีดำ 4 ริ้วก็ได้พุ่งเข้าใส่ฉีเฟิงเพื่อที่จะจัดการแยกเขาออกเป็นชิ้นๆ
สภาพพิเศษ! (เปิดใช้งานสกิลลับพื้นฐานพร้อมกัน 3 สกิล)
ฉีเฟิงตกใจมากเมื่อเห็นการกระทําดังกล่าว ความเร็วนี่มันยิ่งกว่าพวกชั้นสูงปกติอีก ฉีเฟิงใช้สกิลหลีกเลี่ยงปัดป้องขณะนั้นเอง
แต้ง แต้ง แต้ง แต้ง!
ฉีเฟิงได้ถอยกลับหลังไปหลายก้าวก่อนที่เขาจะยืนอย่างมั่นคง
ถ้าไม่ใช่เพราะพิธีหยดน้ำจันทร์ที่สมบูรณ์ละก็ร่างแยกของปีศาจตัวนี้ก็อาจจะไม่ใช่แค่ระดับชั้นสูงแต่อาจเป็นระดับชั้นสูงพิเศษ
“ตาย!” แม้จะมีความได้เปรียบแต่ร่างแยกของปีศาจก็ไม่ได้ให้โอกาสฉีเฟิงเลย
มันใช้ สับ เพื่อตั้งใจแทงดาบไปยังหัวใจของฉีเฟิง
ฉีเฟิงเปิดใช้งานสกิลย่างก้าวเวหาทันที เขาหลบไปด้านข้างขณะที่เว้นระยะห่างของตัวเองออกจากร่างแยก
หลังจากมันโจมตีพลาดร่างแยกก็หันหน้าของมันมาทางเขาแล้วใช้สกิลย่างก้าวเวหาเพื่อไล่ตามฉีเฟิงไป
ในด้านความแข็งแรง ความเร็วและ HP ร่างแยกของปีศาจกําความได้เปรียบไว้มาก ยิ่งไปกว่านั้นร่างแยกก็ยังมีสกิลเหมือนกันกับฉีเฟิงอีก
มันเป็นสถานการณ์ที่ฉีเฟิงเสียเปรียบแบบสุดๆ
เมื่อเห็นว่ามันกําลังจะจับเขาได้แล้ว ร่างแยกของปีศาจก็เผยรอยยิ้มอันเหี้ยมโหดออกมาแล้วพูดว่า
“ฉันรู้ทุกสิ่งที่แกรู้ ยิ่งไปกว่านั้นความแข็งแกร่งของฉันก็มากกว่าแก แกจะไม่มีทางเอาชนะฉันได้เพราะฉะนั้นจงนอนรอความตายแต่โดยดีนี่เป็นชะตากรรมของแก”
“แล้วแกรู้จักการเคลื่อนไหวนี้ไหม?” ฉีเฟิงเผยรอยยิ้มบางเบา
เงาดาบ 9 เล่มปรากฏขึ้นข้างกายเขาและเมื่อเขาสั่งเงาดาบทั้ง 9 ก็ได้พุ่งเข้าใส่ร่างแยกของปีศาจ (ใช้สกิลของดาบ 9 มังกรฟาดฟัน)
ถึงแม้ว่าร่างแยกจะป้องกันการโจมตีส่วนใหญ่ได้แต่เงาดาบอเวจี 2-3 เล่มก็ยังเจาะทะลุร่างกายของมันได้ ทุกการโจมตีจากเงาดาบจะสร้างความเสียหายต่อร่างแยกเกิน 30 แต้ม
“ไอ้มนุษย์น่ารังเกียจ แกก็แค่อาศัยความแข็งแกร่งของอาวุธตัวเอง ฉันจะทําให้แกรู้เองว่าความพยายามทั้งหมดของแกมันสูญเปล่า” เมื่อพูดจบร่างแยกก็พุ่งไปข้างหน้าของฉีเฟิงและใช้ประกายดาบสายฟ้า
ช่วงเวลาที่แสงแห่งดาบจะมาถึงฉีเฟิงก็ยิ้มอย่างสงบขณะที่เขาเอาม้วนคัมภีร์ออกมาจากกระเป๋าของตัวเอง พวกมันเป็นม้วนคัมภีร์ความเร็วและม้วนคัมภีร์เสกแกะ
ภายในเวลาสั้นๆความเร็วของฉีเฟิงก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน เขาหลบไปด้านข้างเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีจากประกายดาบสายฟ้า ในเวลาเดียวกันเขาก็เปลี่ยนร่างแยกของปีศาจให้กลายเป็นแกะ
หลังจากเปลี่ยนมันเป็นแกะได้แล้ว ฉีเฟิงก็จัดการฟันมันด้วยดาบของเขาทันที
ประกายดาบสายฟ้า!
โดยไม่สามารถหลบได้ร่างแยกของปีศาจได้รับความเสียหายจากแสงของดาบทั้ง 3 เป็นผลให้การโจมตีประกายดาบสายฟ้าเลเวล 5 ของฉีเฟิงก็ทําให้เกิด 3 ความเสียหายอันน่ากลัว -112 -135 -163
ร่างแยกของปีศาจโกรธมากขณะที่มันเปิดใช้งานสกิลป้องกันด้วยคมดาบ ทำให้ระยะการโจมตีของมันเพิ่มขึ้น มันฟันดาบของมันลงไปที่ฉีเฟิงโดยทันที
มนุษย์น่ารังเกียจคนนี้บังอาจใช้วิธีน่าเกลียดกับมันโดยการเปลี่ยนมันให้กลายเป็นแกะ
“ฉันก็สงสัยเหมือนกันว่าปีศาจมันจะแข็งแกร่งขนาดไหน แน่นอนว่าร่างกายของแกย่อมแข็งแกร่งกว่าฉัน และแกก็ยังใช้สกิลแบบเดียวกันกับฉันได้ แต่ฉันเดาว่าแกก็มีความสามารถแค่นี้สินะ” ฉีเฟิงเยาะเย้ยขณะที่เขาหลบการโจมตีที่เข้ามา
“รนหาที่ตาย!” แค่ประโยคเดียวจากฉีเฟิงก็ทําให้ร่างแยกของปีศาจโกรธอย่างบ้าคลั่ง
มันส่งสกิลสับสองเท่าไปที่คอของฉีเฟิงทันที
ฉีเฟิงเล็งดาบอเวจีไปที่ร่างแยกของปีศาจและภายในพริบตาปรากฏโซ่ดํามืด 9 เส้นและผูกมัดมันจํากัดการเคลื่อนไหวของมันเป็นเวลา 3 วินาที
แฟนทอมคิล!
โดยพร้อมเพรียงกันทั้งร่างต้นและร่างแยกเปิดใช้งานป้องกันด้วยคมดาบและทั้งคู่เริ่มโจมตีไปที่ร่างแยกของปีศาจ
ประกายดาบสายฟ้า สับ แยกปฐพี สับสองเท่าและสกิลอีกมากได้โจมตีไปที่ร่างแยกของปีศาจบวกกับการโจมตีอย่างต่อเนื่องจาก 9 มังกรฟาดฟันแล้ว HP ของร่างแยกปีศาจได้ลดลงอย่างต่อเนื่องจนเหลือแค่ 10% เท่านั้น
“แกมีร่างกายที่แข็งแกร่งกว่าแล้วยังไง แกรู้สกิลทั้งหมดของฉันแล้วยังไง แกเป็นปีศาจแล้วยังไง” ฉีเฟิงต้องการที่จะแทงดาบให้ทะลุเข้าไปที่ในหน้าอกของร่างแยกปีศาจ
ในขณะเดียวกันร่างแยกปีศาจก็ทําได้เพียงขบฟันของมันเท่านั้น หน้าตาของมันกำลังบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด ความโกรธของมันกําลังโหมกระหน่ำอยู่ภายในใจ
เมื่อมันหลุดจากการถูกผูกมัดและจํากัดการเคลื่อนไหว มันก็จะสามารถจัดการกับฉีเฟิงได้ทันที ในขณะที่มันกําลังจะนําความสามารถพิเศษออกมาร่างแยกของปีศาจก็ได้เห็นม้วนคัมภีร์ที่อยู่ภายในมือของฉีเฟิง
ร่างแยกของปีศาจมีท่าทีที่สิ้นหวังทันที
“บ๊าย-บาย!” ฉีเฟิงโบกมือของเขาไปที่ร่างแยกของปีศาจ
เขารู้ดีว่าร่างแยกปีศาจกําลังจะแสดงความสามารถของมันออกมา ดังนั้นเขาก็เลยเปิดใช้งานม้วนคัมภีร์เวทมนตร์ระดับ 1 ภายในมือของเขา
ระเบิดอัสนีบาต!
ม้วนคัมภีร์เวทมนตร์ระดับ 1 อันนี้สามารถสร้างความเสียหาย -500 ให้กับศัตรู 1 ตัวที่เลเวลต่ำกว่า 20 ได้
มันมากเกินพอที่จะจัดการกับร่างแยกของปีศาจในปัจจุบันที่มี HP น้อยกว่า 200
ในขณะนี้สายฟ้าสีเขียวได้โจมตีลงมาจากเมฆข้างบน มันก่อให้เกิดความเสียหาย -500 ต่อร่างแยกของปีศาจ
มันทำให้ร่างแยกของปีศาจกลายเป็นควันสีดําและจางหายไปทันที ในขณะนั้นเองมันก็ได้ดรอปอุปกรณ์ทิ้งเอาไว้
ระบบ : เควส “หยดน้ำจันทร” เสร็จสิ้น
ได้รับ 10000 EXP และได้รับฉายา “นักล่าปีศาจ”
ชื่อเสียงในอาณาจักรสตาร์มูนส์+5
ชื่อเสียงในเมืองธาราสีขาว+20
ชื่อเสียงในย่านใบสีแดง+100
ระบบ : ชื่อเสียงในย่านใบสีแดงไปถึง 50 แต้มอัพเกรดเป็นพลเมืองชั้น 1 ของย่านใบสีแดง
ระบบ : ชื่อเสียงในย่านใบสีแดงไปถึง 100 แต้มอัพเกรดเป็นขุนนางชั้น 3 ของย่านใบสีแดง